วันพุธที่ 14 มีนาคม พ.ศ. 2555
[ Info ] Jason Mraz
Jason Mraz was born on 23 June, 1977 . He is a singer / song-writter . He was born and raised in Mechanicsville, Virginia .
His first album is "Waiting for My Rocket to Come" The 1st single is "The Remedy" (I Won't Worry) . and then he released second album name "MR.A-Z" and was peaked at number five Billboard Top 200 .
The Third album os "We Sing. We Dance. We Steal Things" was released on 13 May 2008 with single "I'm Yours" This song peak at number six in Billboard Top 100
[ Info ] Corinne Bailey Rae
Corinne Bailey Rae is a British Singer / Song-Writer . Corinne married to Jason Rae in 2001. unfortunately he was died in 2008.
Corinne was born in Leeds. She started singing in the chruch. She formed an all - female indy groups call 'Helen'
Her first album - "Corinne Bailey Rae' was released in 2006 with the hit songs like ' Like a star ' and 'Put your records on ' . With meaningful lyrics and calm beat she can got through people who listen to this song's heart easily. Finally this album got the first place in UK album chart and UK R&B album chart.
After Jason Rae , her husband died. In 2010 she decided to release her new album " The Sea" . This album is different in another way. "Corinne Bailey Rae" Album gave you a fresh and lovely feel but this album she gave you a blue feel. There're hit songs "Closer", "Paris Night New York Morning" and "I'd do it all again" which show you a sadness
วันอังคารที่ 13 มีนาคม พ.ศ. 2555
[TH - Translate] Freedom Song - Jason Mraz
Title : Freedom Song
Artist : Jason Mraz
.
I picture something, it's beautiful
It's full of life, and it is all blue
I've seen the sunset on the beach, yeah
It makes me feel calm
When I'm calm, I feel good
ฉันได้นึกภาพบางอย่างขึ้นมา มันช่างสวยงาม
มันเต็มไปด้วยชีวิตชีวา และเต็มไปด้วยความเศร้า
ฉันจ้องมองดวงอาทิตย์ตกที่ชายหาด
มันทำให้ฉันรู้สึกผ่อนคลาย
เื่อฉันรู้สึกผ่อนคลายฉันก็รู้สึกดี
And when I feel good, I sing
And the joy it brings makes me feel good
And when I feel good, I sing
And the joy it brings
และเมื่อฉันรู้สึกดี ฉันก็ร้องเพลง
เมื่อฉันสนุกไปกับมัน มันก็ทำให้ฉันรู้สึกดี
และเมื่อฉันรู้สึกดี ฉันก็ร้องเพลง
และสิ่งที่ตามมากับเพลง ก็คือความสนุกสนาน
Come on along
I know you really wanna feel our song
We've got some life to bring
We've got some joy in this thing
เข้ามาด้วยกันสิ
ฉันรู้ว่าเธออยากจะสัมผัสถึงบทเพลงของเรา
เราจะนำมาซึ่งชีวิต
เรามีความสนุกสนานในสิ่งนี้
I see birds fly across the sky
And everyone's heart flies together
Food is frying and people smiling
Like there is no other way to feel good
ฉันมองเห็นฝูงนกบินข้ามท้องฟ้า
และหัวใจของทุกคนก็บินไปด้วยกัน
อาหารที่กำลังทอดอยู่ และผู้คนที่กำลังยิ้ม
ไม่มีทางไหนจะทำให้ฉันรู้สึกดีไปกว่านี้อีกแล้ว
And when I feel good, I sing
And the joy it brings makes me feel good
Cos when I feel good, I sing
Of the joy it brings
และเมื่อฉันรู้สึกดี ฉันก็ร้องเพลง
เมื่อฉันสนุกไปกับมัน มันก็ทำให้ฉันรู้สึกดี
และเมื่อฉันรู้สึกดี ฉันก็ร้องเพลง
แห่งความรื่นเริง
Come on along
I know you really wanna feel our song
We've got some life to bring
We've got some joy in this thing
เข้ามาด้วยกันสิ
ฉันรู้ว่าเธออยากจะสัมผัสถึงบทเพลงของเรา
เราจะนำมาซึ่งชีวิต
เรามีความสนุกสนานในสิ่งนี้
It brings me freedom
Got to get you some of that freedom
It's a freedom
มันทำให้ฉันพบกับอิสระ
เธอก็มาเอาไปสักนิดนึงสิ
มันคืออิสระภาพ
Singing freedom
You deserve your freedom
It's a smile you can feel in your heart beat
Get you that freedom
ร้องเพลงแห่งอิสระภาพ
คุณสมควรที่จะได้รับมัน
มันคือรอยยิ้มที่เธอสามารถรู้สึกได้ในจิตใจ
ปล่อยชีวิตให้เป็นไปตามอิสระภาพ
[TH - Translate] Like a star - Corinne Bailey Rae
Title : Like a Star
Artist : Corinne Bailey Rae
Just like a star across my sky,
Just like an angel off the page,
You have appeared to my life,
Feel like I'll never be the same,
Just like a song in my heart,
Just like oil on my hands,
Oh.. I do love you,
ราวกับกลุ่มดาวที่พาดผ่านท้องนภาของฉัน
ราวกับเทพบุตรที่หลุดออกมาจากหนังสือนิยาย
เธอได้ปรากฎเข้ามาอยู่ในชีวิตฉัน
ทำให้ฉันรู้สึกว่าฉันจะไม่เหมือนเดิม
ราวกับบทเพลงในหัวใจของฉัน
ราวกับน้ำมันที่ให้ความชุ่มชื้นแก่มือของฉัน
โอ้... ฉันรักเธอจริงๆ
Still i wonder why it is,
I don't argue like this,
With anyone but you,
We do it all the time,
Blowing out my mind,
ยังคงสงสัยว่าทำไมถึงเป็นเช่นนี้
ฉันไม่เคยโต้เถียงแบบนี้กับใครเลย ยกเว้นคุณ
เราทะเลาะกันมาโดยตลอด
มันพัดพาจิตใจฉันออกไป...
You've got this look i can't describe,
You make me feel like I'm alive,
When everything else is a fade,
Without a doubt you're on my side,
Heaven has been away too long,
Can't find the words to write this song,
Oh.,..
Your love,
คุณมีหน้าตาที่ฉันไม่สามารถหาคำใดมาเปรียบเทียบได้
คุณทำให้ฉันรู้สึกได้ว่ารู้สึกว่าฉันยังมีชีวิตอยู่
เมื่อทุกๆสิ่งอย่างจางหายไป
คุณอยู่ข้างฉันโดยปราศจา่กข้อกังขาใดๆ
สวรรค์ได้ไกลออกไปมากแล้ว
แต่ฉันยังคงไม่สามารถหาคำมาเขียนเพลงนี้ได้
โอ้... ความรัก
Still i wonder why it is,
I don't argue like this,
With anyone but you,
We do it all the time,
Blowing out my mind,
ยังคงสงสัยว่าทำไมถึงเป็นเช่นนี้
ฉันไม่เคยโต้เถียงแบบนี้กับใครเลย ยกเว้นคุณ
เราทะเลาะกันมาโดยตลอด
มันพัดพาจิตใจฉันออกไป...
I have come to understand,
The way it is,
It's not a secret anymore,
'cause we've been through that before,
From tonight I know that you're the only one,
I've been confused and in the dark,
Now I understand,
ฉันเริ่มจะเข้าใจในสิ่งที่มันเป็นแล้ว
มันไม่เป็นความลับอีกต่อไปแล้ว
เพราะเราเคยผ่านเรื่องนี้มาก่อน
จากค่ำตืนนี้ไป ฉันรู้ว่าเธอคืนคนสำคัญ
จากคนที่สับสนอยู่ในความมืดมิด
ตอนนี้ฉันได้เข้าใจแล้ว...
I wonder why it is,
I don't argue like this,
With anyone but you,
I wonder why it is,
I wont let my guard down,
For anyone but you
We do it all the time,
Blowing out my mind,
ฉันสงสัยว่าทำไมถึงเป็นเช่นนี้
ฉันไม่เคยโต้เถียงแบบนี้กับใครเลย ยกเว้นคุณ
และฉันยังคงฉันสงสัยว่าทำไมถึงเป็นเช่นนี้
ฉันไม่เคยยอมใครเลย ยกเว้นคุณ
พัดพาจิตใจของฉันออกไป....
Just like a star across my sky,
Just like an angel off the page,
You have appeared to my life,
Feel like I'll never be the same,
Just like a song in my heart,
Just like oil on my hands
ราวกับกลุ่มดาวที่พาดผ่านท้องนภาของฉัน
ราวกับเทพบุตรที่หลุดออกมาจากหนังสือนิยาย
เธอได้ปรากฎเข้ามาอยู่ในชีวิตฉัน
ทำให้ฉันรู้สึกว่าฉันจะไม่เหมือนเดิม
ราวกับบทเพลงในหัวใจของฉัน
ราวกับน้ำมันที่ให้ความชุ่มชื้นแก่มือของฉัน
[TH - Translate] Paris Night New York Morning - Corinne Bailey Rae
Title : Paris Night New York Morning
Artist : Corinne Bailey Rae
Breakfast at Mickey's, make-up still on
Elbows on the greasy table cloth
One more coffee and one last cigarette
ทานอาหารเช้าที่โรงแรม Mickey's
กับใบหน้าที่แต่งแต้มด้วยเครื่องสำอางค์ที่ยังไม่ได้ล้าง
เท้าศอกอยู่บนพรมน้ำมัน
ดื่มกาแฟสักแก้ว ตามด้วยบุหรี่ซักมวน
Smiling at the rain cause you hold me close
My best dress on underneath this old coat
Walking down Bleecker no one is awake yet
ยิ้มให้กับสายฝนเพราะเธอกอดฉันไว้อย่างแน่น
ชุดเก่งของฉันถูกใส่อยู่ภายใต้เสื้อโค้ทตัวเก่า
เดินไปเรื่อยๆในถนน Bleecker ที่ยังไม่มีใครตื่น
Still, seven hours
Nothing but clouds
It's enough to make your heart sigh
We should try
So pick me up and take me out
ยังคงเป็นเวลา 7 นาฬิืกา
ยังคงมีเพียงเมฆ โดยไร้สิ่งอื่นใด
แต่เพียงแค่นี้ก็เพียงพอจะทำให้หัวใจของคุณห่อเหี่ยว
เราน่าจะลองดูนะ
ดังนั้นพาฉันออกไปเถอะ
Oo we crash into love-filled nights
(Paris nights and New York mornings)
Oo we race till we're out of time
(Paris nights and New York mornings)
And now that you've taken me up so high
(Paris nights and New York mornings)
Don't let me down
Don't let me down
โอ้ เราพุ่งเข้าไปในค่ำตืนที่แต่งแต้มไปด้วยความรัก
(ค่ำคืนที่ปารีส และยามเช้าที่นิวยอร์ก)
โอ้ เราวิ่งแข่งกันจนกว่าเวลาจะหมด
(ค่ำคืนที่ปารีส และยามเช้าที่นิวยอร์ก)
และในตอนนี้ เธอทำให้ฉันรู้สึกดีมากๆเลยล่ะ
(ค่ำคืนที่ปารีส และยามเช้าที่นิวยอร์ก)
อย่าทำให้ฉันเสียใจ
อย่าทำให้ฉันเสียใจ
I could see the lights from the restaurant
I couldn't quite perfect that nonchalance
Paris and champagne with one brown sugar cube
ฉันสามารถมองเห็นแสงจากร้านอาหาร
ฉันไม่สามารถเมินเฉยต่อความเพอร์เฟ็กนี้ได้
ดื่มแชมเปญจากปารีส คู่กับน้ำตาลแดงสักก้อน
And we danced while the band played "She's not there"
Kissed me in the rain by the Rue Voltaire
It's a perfectly good way to ruin those silk shoes
เราเต้นไปด้วยกันขณะที่วงดนตรีเล่นเพลง She's not there
จูบกันท่ามกลางสายฝนในถนน Rue Voltaire
มันเป็นวิธีที่ดีในการทำให้รองเท้าเสียเร็วๆนะ
Still, seven hours
Nothing but clouds
It's enough to make your heart sigh
We should try
For each other and for the lovers
ยังคงเป็นเวลา 7 นาฬิืกา
ยังคงมีเพียงเมฆ โดยไร้สิ่งอื่นใด
แต่เพียงแค่นี้ก็เพียงพอจะทำให้หัวใจของคุณห่อเหี่ยว
เราน่าจะลองดูนะ
ดังนั้นพาฉันออกไปเถอะ
Oo we crash into love-filled nights
(Paris nights and New York mornings)
Oo we race till we're out of time
(Paris nights and New York mornings)
And now that you've taken me up so high
(Paris nights and New York mornings)
Don't let me down
Don't let me down
โอ้ เราพุ่งเข้าไปในค่ำตืนที่แต่งแต้มไปด้วยความรัก
(ค่ำคืนที่ปารีส และยามเช้าที่นิวยอร์ก)
โอ้ เราวิ่งแข่งกันจนกว่าเวลาจะหมด
(ค่ำคืนที่ปารีส และยามเช้าที่นิวยอร์ก)
และในตอนนี้ เธอทำให้ฉันรู้สึกดีมากๆเลยล่ะ
(ค่ำคืนที่ปารีส และยามเช้าที่นิวยอร์ก)
อย่าทำให้ฉันเสียใจ
อย่าทำให้ฉันเสียใจ
You change and you grow
But we were young
We were young and we didn't know
We didn't know
เธอเปลี่่ยนไปและเติบโตขึ้น
แต่ยังไงเราก็เคยเป็นเด็กมาก่อน
เราเีคยเป็นเด็ก แลัตอนนี้เราก็ยังไม่รู้
เราก็ยังไม่รู้
Oo we crash into love-filled nights
(Paris nights and New York mornings)
Oo we race till we're out of time
(Paris nights and New York mornings)
And now that you've taken me up so high
(Paris nights and New York mornings)
Don't let me down
Don't let me down
โอ้ เราพุ่งเข้าไปในค่ำตืนที่แต่งแต้มไปด้วยความรัก
(ค่ำคืนที่ปารีส และยามเช้าที่นิวยอร์ก)
โอ้ เราวิ่งแข่งกันจนกว่าเวลาจะหมด
(ค่ำคืนที่ปารีส และยามเช้าที่นิวยอร์ก)
และในตอนนี้ เธอทำให้ฉันรู้สึกดีมากๆเลยล่ะ
(ค่ำคืนที่ปารีส และยามเช้าที่นิวยอร์ก)
อย่าทำให้ฉันเสียใจ
อย่าทำให้ฉันเสียใจ
[TH-Translate] I'd do it all again - Corinne Bailey Rae
Title : I'd do it all again
Artist : Corinne Bailey Rae
Ooh, you're searching for something I know, wont make you happy
Ooh, you're thirsting for something I know, wont make you happy
โอ้.... คุณกำลังค้นหาบางสิ่ง ฉันรู้... มันจะไม่ทำให้คุณมีความสุข
โอ้..... คุณกำลังโหยหาบางสิ่ง ฉันรู้..... มันจะไม่ทำให้คุณมีความสุข
Ooh, you did it all again, you broke another skin
Its hard to believe this time, hard to believe
That my heart, my hearts an open door...
You got all you came for, baby
โอ้... คุณได้ทำมันทั้งหมดอีกครั้งแล้ว... คุณได้ทำร้ายคนอื่น
มัีนยากที่จะเชื่อในเวลานี้ ยากเกินกว่าที่จะเชื่อได้
ว่าหัวใจของฉันได้เปิดขึ้น
คุณได้ทุกสิ่งที่คุณต้องการแล้ว ที่รัก
So weary, someone to love is bigger than your prides worth
Is bigger than the pain you got for it hurts
And out runs all of the sadness
Its terrifying, life, through the darkness
ฉันกำลังอิโรย ใครสักคนเพื่อรัก มันยิ่งใหญ่กว่าคุณค่าของศักดิ์ศรีของคุณ
ยิ่งใหญ่กว่าความเจ็บปวด ที่คุณได้ทำกับมัน
และความเศร้าทั้งหลายจะได้หมดสิ้นไป
ชีวิตช่างน่ากลัวในความมืด
And Id do it all again, Id do it all again
Id do it all again, Id do it all again
You try sometimes but it wont stop
You got my heart and my heads lost, ooh yeah
Ive been burning down these candles for love, for love
และฉันจะทำสิ่งนี้อีกครั้ง และฉันจะทำสิ่งนี้อีกครั้ง
เธอได้พยายามในบางครั้ง แต่มันก็ไม่อาจหยุดได้
เธอเอาหัวใจของฉันไป ทำให้ฉันหลงทาง
จากนั้นฉันได้เผาผลาญชีวิตตัวเองเหมือนเทียน เพื่อความรัก
So weary, someone to love is bigger than your pride
Ooh, someone to love, mm, someone to love
Someone to love
Ooh, you're searching for something I know, wont make you happy
Ooh
ฉันกำลังอิโรย ใครสักคนเพื่อรัก มันยิ่งใหญ่กว่าคุณค่าของศักดิ์ศรีของคุณ
โอ้... ใครสักคนเพื่อรัก
โอ้... คุณกำลังคนหาบางสิ่ง ฉันรู้ดี มันจะไม่ทำให้คุณมีความสุข
โอ้...
วันจันทร์ที่ 12 มีนาคม พ.ศ. 2555
[TH-Translate] Part of Me - Katy Perry
Title : Part of Me
Artist : Katy Perry
Days like this I want to drive away
Pack my bags and watch your shadow fade
You chewed me up and spit me out
Like I was poison in your mouth
You took my light, you drained me down
That was then and this is now
Now look at me
ฉันอยากจะหนีไปจากวันแบบนี้ซะ
อยากจะแพ็กกระเป๋าแล้วมองดูเงาของคุณจางหายไป
เธอทำให้ฉันตกหลุมรัก และทิ้งฉันไป
เหมือนกับฉันเป็นยาพิษในปากของเธอ
เธอเอาแสงสว่างของฉันไป คุณทำให้ฉันตกต่ำลง
ต่อจากนี้ มองมาที่ฉันซะ
This is the part of me that you're never gonna ever take away from me, no
This is the part of me that you're never gonna ever take away from me, no
Throw your sticks and stones
Throw your bombs and your blows
But you're not gonna break my soul
This is the part of me that you're never gonna ever take away from me, no
นี่คือส่วนหนึ่งของฉันที่คุณจะไม่สามารถเอามันไปจากฉันได้
นี่คือส่วนหนึ่งของฉันที่คุณจะไม่สามารถเอามันไปจากฉันได้
แม้เธอจะขว้างกิ่งไม้ ก้อนหิน ระเบิด ทำร้ายฉันยังไง
แต่เธอก็ไม่สามารถทำลายจิตวิญญาณของฉันได้
นี่คือส่วนหนึ่งของฉันที่คุณจะไม่สามารถเอามันไปจากฉันได้
I just wanna throw my phone away
Find out who is really there for me
'Cause you ripped me off, your love was cheap
Was always tearing at the seams
I fell deep and you let me drown
But that was then and this is now
Now look at me
ฉันเพียงอยากจะขว้างโทรศัพท์มือถือทิ้งซะ
ค้นหาคนที่จะอยู่ตรงนี้เพื่อฉัน
เพราะเธอทำร้ายฉัน ความรักของเธอมันช่างไร้ค่า
สามารถทำลายลงได้อย่างง่ายดาย เหมือนที่มันควรจะเป็น
ฉันรู้สึกตกต่ำ และเธอก็ปล่อยให้ฉันจมลงไป
แต่ในตอนนี้ มองฉันให้ดีๆ
This is the part of me that you're never gonna ever take away from me, no
This is the part of me that you're never gonna ever take away from me, no
Throw your sticks and stones
Throw your bombs and your blows
But you're not gonna break my soul
This is the part of me that you're never gonna ever take away from me, no
นี่คือส่วนหนึ่งของฉันที่คุณจะไม่สามารถเอามันไปจากฉันได้
นี่คือส่วนหนึ่งของฉันที่คุณจะไม่สามารถเอามันไปจากฉันได้
แม้เธอจะขว้างกิ่งไม้ ก้อนหิน ระเบิด ทำร้ายฉันยังไง
แต่เธอก็ไม่สามารถทำลายจิตวิญญาณของฉันได้
นี่คือส่วนหนึ่งของฉันที่คุณจะไม่สามารถเอามันไปจากฉันได้
Now look at me, I'm sparkling
A firework, a dancing flame
You won't ever put me out again
I'm glowing, oh woah oh
So you can keep the diamond ring
It don't mean nothing anyway
In fact you can keep everything
Yeah, yeah
Except for me
ตอนนี้มองมาที่ฉัน ฉันกำลังเปล่งประกาย
ดั่งดอกไม้ไฟ และ เปลวไฟที่กำลังเต้นรำ
เธอจะไม่มีโอกาสได้ทำกับฉันแบบนั้นอีกครั้ง
ฉันกำลังเปล่งแสงออกมา โอ้
ดัีงนั้นเธอจะเก็บแหวนเพชรคืนไปเลยก็ได้
เพราะมันไม่ได้มีค่าอะไรแล้ว
อันที่จริงเธอเก็บทุกอย่างคืนไปได้เลย (เพราะมันไม่มีค่าแล้ว)
ยกเว้นตัวฉันเอง
This is the part of me that you're never gonna ever take away from me, no
This is the part of me that you're never gonna ever take away from me, no (away from me)
Throw your sticks and stones
Throw your bombs and your blows
But you're not gonna break my soul
This is the part of me that you're never gonna ever take away from me, no
นี่คือส่วนหนึ่งของฉันที่คุณจะไม่สามารถเอามันไปจากฉันได้
นี่คือส่วนหนึ่งของฉันที่คุณจะไม่สามารถเอามันไปจากฉันได้
แม้เธอจะขว้างกิ่งไม้ ก้อนหิน ระเบิด ทำร้ายฉันยังไง
แต่เธอก็ไม่สามารถทำลายจิตวิญญาณของฉันได้
นี่คือส่วนหนึ่งของฉันที่คุณจะไม่สามารถเอามันไปจากฉันได้
This is the part of me, no, (away from me)
This is the part of me, me, me, me, me, me, no
Throw your sticks and stones
Throw your bombs and your blows
But you're not gonna break my soul
This is the part of me that you're never gonna ever take away from me, no
นี่คือส่วนหนึ่งของฉันที่คุณจะไม่สามารถเอามันไปจากฉันได้
นี่คือส่วนหนึ่งของฉันที่คุณจะไม่สามารถเอามันไปจากฉันได้
แม้เธอจะขว้างกิ่งไม้ ก้อนหิน ระเบิด ทำร้ายฉันยังไง
แต่เธอก็ไม่สามารถทำลายจิตวิญญาณของฉันได้
นี่คือส่วนหนึ่งของฉันที่คุณจะไม่สามารถเอามันไปจากฉันได้
[TH - Translate] Bizarre Love Triangle - Frente
Title : Bizarre Love Triangle
Artist : Frente
Every time I think of you
I get a shot right through
Into a bolt of blue
It's no problem of mine
But it's a problem I find
Living the life that I can't leave behind
ทุกๆครั้งที่ฉันคิดถึงเธอ
ราวกับว่าฉันถูกยิงด้วยกระสุนแห่งความเศร้า
มันไม่ใช่ปัญหาของฉัน แต่มันเป็นปัญหาที่ฉันพบ
แต่ฉันยังคงใช้ชีวิตต่อไป เพราะฉันไม่อาจทิ้งมันไปได้
There's no sense in telling me
The wisdom of a fool won't set you free
But that's the way that it goes
And it's what nobody knows
And every day my confusion grows
ไม่มีเหตุผลที่เธอจะต้องบอกฉัน
ความหลักแหลมของคนโง่เขลาจะไม่ทำให้เธอได้รับอิสระ
แต่ในเมื่อนี่เป็นหนทางที่มันเป็นไป
และมันเป็นเรื่องที่ไม่มีใครรู้
และทุกๆวันควาบสับสนของฉันก็มีมากขึ้นเรื่อยๆ
Every time I see you falling
I get down on my knees and pray
I'm waiting for the final moment
You say the words that I can't say
ทุกๆึครั้งที่ฉันเห็นเธอตกต่ำลง
ฉันก็ได้แต่นั่งคุำกเขา และอ้อนวอนภาวนา
ฉันยังคงรอคอยช่วงเวลาสุดท้าย
ที่เธอจะพูดคำที่ฉันไม่อาจเอ่ยได้
I feel fine and I feel good
I feel like I never should
Whenever I get this way
I just don't know what to say
Why can't we be ourselves like we were yesterday
ฉันยังไม่เป็นไร และรู้สึกดี
ฉันรู้สึกเหมือนฉันไม่ควรจะรู้่สึกแบบนี้
เมื่อใดก็ตามที่ฉันได้เดินตามเส้นทางนี้แล้ว
ฉันก็ไม่รู้ว่าจะต้องพูดอะไร
ทำไมเราถึงเป็นแบบเดิมเหมือนวันวานไม่ได้ล่ะ
I'm not sure what this could mean
I don't think you're what you seem
I do admit to myself
That if I hurt someone else
Then I'll never see just what we're meant to be
ฉันไม่แน่ใจว่าสิ่งนี้จะหมายความว่ายังไง
ฉันไม่ติดว่าเูธอเป็นในสิ่งที่เธอเหมือนจะเป็น
ฉันเลยต้องยอมรับตัวเอง
ถ้าหากฉันได้ทำให้ใครบางคนเจ็บปวดแล้ว
ฉันจะไม่มีวันได้เห็นว่าำพวกเรามีความหมายต่อกันเช่นไร
Every time I see you falling
I get down on my knees and pray
I'm waiting for the final moment
You'll say the words that I can't say
ทุกๆึครั้งที่ฉันเห็นเธอตกต่ำลง
ฉันก็ได้แต่นั่งคุำกเขา และอ้อนวอนภาวนา
ฉันยังคงรอคอยช่วงเวลาสุดท้าย
ที่เธอจะพูดคำที่ฉันไม่อาจเอ่ยได้
Every time I see you falling
I'll get down on my knees and pray
I'm waiting for the final moment
You'll say the words that I can't say
ทุกๆึครั้งที่ฉันเห็นเธอตกต่ำลง
ฉันก็ได้แต่นั่งคุำกเขา และอ้อนวอนภาวนา
ฉันยังคงรอคอยช่วงเวลาสุดท้าย
ที่เธอจะพูดคำที่ฉันไม่อาจเอ่ยได้
-------------------
ใครอยากให้แปลเพลงอะไรก็ส่งกันเข้ามาได้นะครับ ยินดีครับ ^^
[TH - Translate] Good Girl - Carrie Underwood
Title : Good Girl
Artist : Carrie Underwood
Well, it don’t mean much
Hey good girl
So good for him
Better back away honey
You don’t know where he’s been
ก็นะ มันไม่ได้หมายความว่าฉันเยอะสักหน่อย
เฮ้ ยัยผู้หญิงแสนดี
ดีเกินไปสำหรับผู้ชายคนนั้น
กลับไปที่ที่เูธอควรอยู่ดีกว่านะที่รัก
เธอไม่รู้หรอกว่าตอนนี้เจาอยู่ที่ไหน
[Hook]
Why, why you gotta be so blind?
Won’t you open your eyes?
It’s just a matter of time 'til you find
He’s no good, girl
No good for you
You better get to getting on your goodbye shoes and go, go, go...
Yeah yeah yeah, he’s low
Yeah yeah yeah
ทำไมเธอถึงได้ทำตัวเหมือนคนตาบอด
เธอไม่ได้เปิดตาดูเหรอ?
เมื่อเ้วลาได้ผ่านไป จนกระทั่งเธอพบว่า
เขาไม่ได้ดีเลิศแบบนั้น ที่รัก
ดีไม่พอสำหรับเธอ
จะดีกว่าถ้าเธอไปหยิบรองเท้าเธอแล้วไปให้ไกลๆ
ใช่แล้ว เขาน่ะดูต่ำมาก..
[Bridge]
He’s no good, girl
Why can’t you see?
He’ll take your heart and break it
Listen to me, yeah
เขาไม่ได้เป็นคนดีเลย สาวๆ
ทำไมเธอยังมองไม่เห็นละ
เขาจะเอาหัวใจเธอไปและทำลายมันซะ
ฟังฉันสักคำสิ
[Hook/Outro]
Why, why you gotta be so blind?
Won’t you open your eyes?
It’s just a matter of time 'til you find
He’s no good, he’s no good
ทำไมเธอถึงได้ตาบอดขนาดนี้
ทำไมเธอไม่ลองเปิดตาดู
เมื่อถึงเวลาที่เธอพบว่า
เขาไม่ได้ดีเลิศ เขาไม่ได้เ็ป็นคนดีเลย
Won’t you open up your eyes?
It’s just a matter of time 'til you find
He’s no good, girl
He’s no good for you
You better get to getting on your goodbye shoes
เธอไม่ได้เปิดตาดูเหรอ
เมื่อมันถึงเวลาที่เธอจะพบว่า
เขาไม่ได้เป็นคนดีเลย ที่รัก
เขาไม่ได้ดีสำหรับเธอ
เธอน่าจะใส่รองเท้าเธอพร้อมเดินจากไปและบอกลาเขาซะ
[TH - Translate] Safe & Sound - Taylor Swift Feat. The Civil Wars
Title : Safe & Sound
Artist : Taylor Swift Feat. The Civil Wars
I remember tears streaming down your face
When I said, I'll never let you go
When all those shadows almost killed your light
I remember you said, Don't leave me here alone
But all that's dead and gone and passed tonight
ฉันยังคงจำหยาดน้ำตาที่ไหลรินบนหน้าเธอได้
เมื่อตอนที่ฉันพูดว่าฉันจะไม่ปล่อยเธอไป
เมืื่อเงามืดเกือบจะกลืนกินแสงสว่างของเธอทั้งหมด
ฉันยังจำที่เธอพูดได้ "อย่าทิ้งฉันไว้ที่นี่คนเดียว"
แต่สิ่งเหล่านั้นจะหายไป และค่ำคืนนี้ก็จะผ่านไป
Just close your eyes
The sun is going down
You'll be alright
No one can hurt you now
Come morning light
You and I'll be safe and sound
เพียงแค่หลับตาลง
ดวงตะวันกำลังจะลับขอบฟ้าไป
เธอจะไม่เป็นไร ไม่มีใครจะทำร้านเธอได้
เมื่อแสงสว่างแห่งรุ่งอรุณมาเยือน
เธอกับฉันก็จะปลอดภัย
Don't you dare look out your window darling
Everything's on fire
The war outside our door keeps raging on
Hold onto this lullaby
Even when the music's gone
อย่ืาได้หันมองไปยังนอกหน้าต่่างเลยที่รัก
ทุกสรรพสิ่งราวกับถูกไฟแผดเผา
สงครามที่อยู่ภายนอกยังคงรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ
ร้องเพลงเพลงนี้ต่อไป แม้จะไม่มีดนตรีแล้วก็ตาม
Just close your eyes
The sun is going down
You'll be alright
No one can hurt you now
Come morning light
You and I'll be safe and sound
เพียงแค่หลับตาลง
ดวงตะวันกำลังจะลับขอบฟ้าไป
เธอจะไม่เป็นไร ไม่มีใครจะทำร้านเธอได้
เมื่อแสงสว่างแห่งรุ่งอรุณมาเยือน
เธอกับฉันก็จะปลอดภัย
Just close your eyes
You'll be alright
Come morning light,
You and I'll be safe and sound...
เพียงแค่หลับตาลง
ดวงตะวันกำลังจะลับขอบฟ้าไป
เธอจะไม่เป็นไร ไม่มีใครจะทำร้านเธอได้
เมื่อแสงสว่างแห่งรุ่งอรุณมาเยือน
เธอกับฉันก็จะปลอดภัย
[TH-Translate] Virtual Insanity - Jamiroquai
Title : Virtual Insanity
Artist : Jamiroquai
Oh yeah, what we're living in (let me tell ya)
โอ้ พวกเรากำลังใช้ชีวิตในสิ่งที่เีรียกว่าอะไร (ขอให้ฉันได้พูดสักนิด)
It's a wonder man can eat at all
When things are big that should be small
Who can tell what magic spells we'll be doing for us
มันคือเรื่องประหลาดที่มนุษย์สามารถกินได้ทุกสิ่ง
เมื่อสิ่งต่างๆที่สมควรจะเล็ก กลับใหญ่ขึ้นมา
ใครบอกได้ว่า ว่าเรากำลังเสกคาถาอะไรใส่ตัวเองอยู่
And I'm giving all my love to this world
Only to be told
I can't see
I can't breathe
No more will we be
และฉันได้ให้ความรักทั้งหมดของฉันกับโลกใบนี้
ก็เพียงแค่ได้บอกเล่าต่อไป
ฉันไม่สามารถมองเห็นได้ ฉันหายใจไม่ออก
พวกเราจะจบสิ้นเพียงเท่านี้แล้วหรือ
And nothing's going to change the way we live
Cos' we can always take but never give
And now that things are changing for the worse,
See, its a crazy world we're living in
And I just can't see that half of us immersed in sin
Is all we have to give these -
และไม่มีสิ่งใดสามารถเปลี่ยนแปลงแนวทางชีวิตเราได้
เพราะพวกเราคิดแต่จะเอา แต่ไม่เคยคิดจะให้
ในตอนนี้ สิ่งต่างๆกำลังเปลี่ยนแปลงไปในทางที่แย่ลง
เห็นหรือยัง? เรากำลังอาศัยอยู่ในโลกที่บ้าคลั่ง
และฉันก็ไม่สามารถมองเห็นว่า กว่าครึ่งของพวกเราจมอยู่ภายใต้บาป
หรือสิ่งที่พวกเราควรจะทำคือให้ -
Futures made of virtual insanity now
Always seem to, be govern'd by this love we have
For useless, twisting, our new technology
Oh, now there is no sound - for we all live underground
อนาคตถูกสร้างขึ้นจากความจริงที่บ้าบอนี้
ในตอนนี้ทุกสิ่งเหมือนถูกควบคุมโดยความรักที่แสนไร้ค่า ไม่แน่นอน และวิทยาการใหม่ๆ
โอ้ ฉันไม่อาจได้ยินเสียงใดๆสำหรับพวกเราที่อาศัยอยู่ใต้ดิน
And I'm thinking what a mess we're in
Hard to know where to begin
If I could slip the sickly ties that earthly man has made
And now every mother, can choose the colour
Of her child
และฉันก็กำลังคิดว่า ความยุ่งเหยิงที่เราอาศัยอยู่ตอนนี้เรียกว่าอะไร
ไม่อาจรู้ว่าควรจะเริ่มตรงไหน
ถ้าหากฉันตกลงไปในปมที่มนุษย์ได้สร้างขึ้น
และในตอนนี้ แม่ทุกคนสามารถกำหนดชีวิตของลูกของเธอได้
That's not nature's way
Well that's what they said yesterday
There's nothing left to do but pray
I think it's time I found a new religion
Waoh - it's so insane
To synthesize another strain
There's something in these
Futures that we have to be told.
นั่นมันไม่ใช่วิถีแห่งธรรมชาติ
พวกเขาได้พูดแบบนี้เมื่อวันก่อน
ไม่มีสิ่งใดให้ทำเพียงแต่ภาวนา
ฉันคิดว่าในเวลานี้ ฉันได้ค้นพบความเชื่อใหม่
โอ้ มันช่างวิกลจริต
ที่จะสังเคราะห์พวกสายพันธุ์ใหม่ขึ้น
มันมีบางสิ่งในอนาคตนี้ ที่พวกเราควรจะได้ฟังกัน
Futures made of virtual insanity - now
Always seem to, be govern'd by this love we have
For useless, twisting, our new technology
Oh, now there is no sound - for we all live underground
อนาคตถูกสร้างขึ้นจากความจริงที่บ้าบอนี้
ในตอนนี้ทุกสิ่งเหมือนถูกควบคุมโดยความรักที่แสนไร้ค่า ไม่แน่นอน และวิทยาการใหม่ๆ
โอ้ ฉันไม่อาจได้ยินเสียงใดๆสำหรับพวกเราที่อาศัยอยู่ใต้ดิน
Now there is no sound
If we all live underground
And now it's virtual insanity
Forget your virtual reality
Oh, there's nothing so bad.
I know yeah
ตอนนี้ฉันไม่สามารถไม่ยินเสียงใดๆ
หากพวกเราอาศัยอยู่ใต้ดิน
ตอนนี้มันคือความวิกลจริตอย่างแท้จริง
ลืมเรื่องความจริงไปซะ
โอ้ มันก็ไม่ได้มีอะไรที่แย่เกินไปนะ
ฉันรู้
Of this virtual insanity, we're livin in.
Has got to change, yeah
Things, will never be the same.
And I can't go on
While we're livin' in oh, oh virtual insanity
Oh, this world, has got to change
Cos I just, I just can't keep going on, it was virtual.
Virtual insanity that we're livin' in, that we're livin' in
That virtual insanity is what it is
เรากำลังอาศัยอยู่ในโลกความวุ่นวายไม่ปกติ
มันได้เปลี่ยนไปแล้ว
สิ่งต่างๆจะไม่กลับไปเป็นเหมือนเดิม
และฉันไม่สามารถจะไปต่อได้
ในขณะที่เรากำลังอาศัยอยู่ในความวุ่นวายนี้
โลกก็ได้เปลี่ยนแปลงไป
เพราะฉันไม่สามารถไปต่อไป มันได้เป็นไปตามความจริง
เราอาศัยอยู่โดยความวิกลจริตอย่างแท้จริง
ความวิกลจริตที่แท้จริงคือสิ่งที่มันเป็นอยู่
Futures made of virtual insanity - now
Always seem to, be govern'd by this love we have
For useless, twisting, our new technology
Oh, now there is no sound - for we all live underground
อนาคตถูกสร้างขึ้นจากความจริงที่บ้าบอนี้
ในตอนนี้ทุกสิ่งเหมือนถูกควบคุมโดยความรักที่แสนไร้ค่า ไม่แน่นอน และวิทยาการใหม่ๆ
โอ้ ฉันไม่อาจได้ยินเสียงใดๆสำหรับพวกเราที่อาศัยอยู่ใต้ดิน
Living - Virtual Insanity
Living - Virtual Insanity
Living - Virtual Insanity
Living - Virtual Insanity
อาศัยอยู่ในความวิกลจริตอย่างแท้จริง
Virtual Insanity is what we're living in
เราอาศัยอยู่ในความวิกลจริตอย่างแท้จริง...
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)